N Health จัด "Genomic Society” ถ่ายทอดความรู้ด้านพันธุกรรม

N health.jpeg

นายณรงค์ฤทธิ์ กาละพุฒ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด (N Health) เป็นประธานเปิดงานสัมนาวิชาการ "Genomic Society” ในหัวข้อ “OXFORD NANOPORE SEQUENCING TECHNOLOGY : TOWARDS MEDICAL APPLICATIONS” โดยได้รับเกียรติจาก ดร. ธิดาทิพย์ วงศ์สุรวัฒน์ และ ดร. พิรุณ เจนเจริญพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชา สารสนเทศชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยของอาร์คันซอสำหรับทางการแพทย์วิทยาศาสตร์ เป็นผู้บรรยาย ณ โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพ

สำหรับงานสัมนาวิชาการ "Genomic Society” เป็นเวทีถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านพันธุกรรม รวมทั้งส่งเสริมและสร้างความร่วมมือทางวิชาการด้านพันธุศาสตร์ ตลอดจนสร้างเครือข่ายเทคนิคการแพทย์ โดย N Health เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยี Nanopore ที่สามารถนำไปสู่การพัฒนา การวิเคราะห์ และรักษาโรคได้อย่างถูกต้องแม่นยำรวดเร็วมากขึ้น เทคโนโลยีนี้กำลังเป็นที่จับตามองในวงการแพทย์และถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในประเทศสหรัฐอเมริกา

ดร. ธิดาทิพย์ วงศ์สุรวัฒน์ อาจารย์ประจำภาควิชา สารสนเทศชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยของอาร์คันซอสำหรับทางการแพทย์วิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากการดื้อยากว่าปีละ 700,000 รายทั่วโลก ซึ่งกำลังเป็นปัญหาคุกคามระดับโลก สำหรับในไทยพบว่ามีจำนวนผู้ติดเชื้อดื้อยาถึงปีละ 87,751 ครั้ง แต่มีผู้เสียชีวิตราว 38,481 ราย คิดเป็นจำนวนถึงร้อยละ 40 ด้วยเหตุนี้ องค์การอนามัยโลกจึงได้รถณรงค์ให้มีการคิดค้นนวัตกรรมการระบุชนิดของจุลชีพและการดื้อยาอย่างเร่งด่วน ช่วยให้แพทย์รักษาอาการตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที การรักษาจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

ดร. พิรุณ เจนเจริญพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชา สารสนเทศชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยของอาร์คันซอสำหรับทางการแพทย์วิทยาศาสตร์ ระบุว่า เทคโนโลยี Nanopore มีบทบาทสำคัญในการตรวจจับเชื้อ โดยได้นำกระบวนการเรียงระดับดีเอ็นเอของแบคทีเรีย เพื่อให้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์โอกาสในการดื้อยา รวมถึงการตอบสนองต่อตัวยา ใช้เวลาเพียง 6 ชั่วโมงก็ทราบผลวิเคราะห์ และไม่จำเป็นต้องนำเชื้อมาตรวจในแลปเพียงอย่างเดียว สามารถนำ Nanopore ออกตรวจวิเคราะห์นอกสถานที่ได้เลย อีกทั้งยังสามารถตรวจเชื้อปนเปื้อนที่มากับสัตว์ อาหาร และยังสามารถระบุแหล่งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม N Health ได้ให้ความสนใจกับเทคโนโลยีนี้เป็นอย่างมาก เพราะจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมแพทย์วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตการการติดเชื้อดื้อยาได้อีกด้วย